มูลนิธิพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม มพส

ข่าวสารและกิจกรรม

ข่าวทั่วไป

บทความ

ข่าวสารและกิจกรรม

'ปิยสวัสดิ์'หนุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

 

      นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และประธานมูลนิธิพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ค่าไฟแพง ไฟขาดแคลน แก้ไขได้ด้วยพลังงานหมุนเวียน” ว่าปัจจุบันต้นทุนการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์มีต้นทุนที่ใกล้เคียง กับการผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ (IPP) โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่ประเทศไทยมีแนวโน้มจะนำเข้ามาใช้ผลิตไฟฟ้ามากขึ้นใน อนาคตปัจจุบันต้นทุนของการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซLNG มีต้นทุนอยู่ที่ 5.71 บาทต่อกิโลวัตต์ ขณะที่ต้นทุนในการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ มีต้นทุนการก่อสร้างอยู่ที่ 55 ล้านบาทต่อ 1 เมกะวัตต์ จะมีราคาอยู่ที่ 5.12 บาทต่อกิโลวัตต์ ขณะที่โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่มีต้นทุนการก่อสร้างอยู่ที่ 65 ล้านบาทต่อ 1 เมกกะวัตต์จะมีต้นทุนในการรับซื้อไฟฟ้าอยู่ที่ 5.59 บาทต่อกิโลวัตต์ ซึ่งการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์จะเป็นทางเลือกในการผลิตไฟฟ้าของไทยใน อนาคต

      นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า ราคาของก๊าซธรรมชาติรวมทั้งก๊าซ LNG มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นตามทิศทางของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งในระยะเวลตั้งแต่ปี 2543-2555 ราคาก๊าซธรรมชาติปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ดังนั้นหากในระยะเวลาอีก 20-30 ปีข้างหน้าประเทศไทยมีการนำเข้าก๊าซ LNG เพื่อผลิตไฟฟ้ามากขึ้นจากปัจจุบันมีการนำเข้าประมาณปีลบะ 2.4 ล้านตัน เป็นปีละ 23.2 ล้านตันในปี 2573 ค่าไฟฟ้าที่ประชาชนจะต้องจ่ายจะปรับเพิ่มขึ้นจาก 3.99 บาทต่อหน่วยในปัจจุบันไปอยู่ที่ 4.95 บาทต่อหน่วย โดยการคำนวณดังกล่าวอาจมีการปรับตัวสูงขึ้นได้เนื่องจากยังมีสถานการณ์ที่ ไม่แน่นอนรออยู่ในอนาคต ซึ่งถือว่าเป็นความเสี่ยงที่ประชาชนอาจจะต้องแบกรับค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นจาก การพึ่งพาการนำเข้าก๊าซ LNG เพื่อผลิตไฟฟ้ามากเกินไปทั้งนี้ กระทรวงพลังงานควรเร่งรัดการดำเนินการกำหนดมาตรการที่แน่นอนในการรับซื้อ ไฟฟ้าจากผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ โดยควรมีการทบทวนข้อดีข้อเสียของการสนับสนุนการรับซื้อไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ทั้ง 2 ระบบได้แก่ระบบ Adder และ ระบบ Feed in tariff โดยการกำหนดราคารับซื้อไฟฟ้าใหม่ไม่ควรต่พกว่า ค่าใช้จ่ายที่จะต้องใช้ในการซื้อก๊าซ LNG เข้ามาผลิตไฟฟ้าในแต่ละปี เพราะการดึงการผลิตไฟฟ้าด้วยแสงอาทิตย์เข้าสู่ระบบเท่ากับการลดปริมาณการ ผลิตไฟฟ้าด้วยก๊าซ LNG ที่จะต้องมีการนำเข้าในอนาคต

      นอกจากนั้นยังเสนอให้มีการยกเลิก มติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่ให้จำกัดปริมาณการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อแก้ไขปัญหาการซื้อขายใบสัญญและสร้างระบบโควต้าในการผลิตไฟฟ้าจากแสง อาทิตย์ รวมทั้งเร่งให้มีการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบน หลังคา (Solar rooftop) โดยภาครัฐควรกำหนดราคาในการรับซื้อไฟฟ้าขายปลีกจากระบบนี้ไม่ต่ำกว่าราคาที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตรับซื้อจากโรงไฟฟ้าของเอกชนในช่วงที่มีปริมาณการใช้ไฟฟ้า สูงสุด เพื่อให้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เข้ามาช่วยแก้ปัญหาสำรองไฟฟ้าในช่วงดัง กล่าว ทั้งนี้หากมีการส่วงเสริมที่ดีพอน่าจะมีไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เข้ามา เสริมระบบผลิตไฟฟ้าในช่วง Peak ไม่ต่ำกว่า 1,000 เมกะวัตต์

สามารถ download ข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ที่นี่

4 เมษายน 2556

http://www.bangkokbiznews.com

Copyright © 2011 Energy For Environment Foundation. All right reserved.
812/66 ซอยประชาชื่น 26 ถนนประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ 10800
โทรศัพท์ +66 2115 5895  E-mail : jutamas.efe@gmail.com